วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

History

มะพร้าวเป็นพืชที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะในวิถีชีวิตของคนไทยได้นำมะพร้าวมาผูกพันกับชีวิตประจำวันมากมายหลายอย่าง นับตั้งแต่การนำมาบริโภค ปรุงอาหารคาวหวาน การนำส่วนต่างๆ ของมะพร้าวมาใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น พิธีลงเสาเอก พิธีแห่ขันหมาก พิธีบวงสรวง และงานบุญต่าง ๆ ถ้าจะพูดถึงประโยชน์ของมะพร้าวโดยละเอียดเราจะพบว่าทุกส่วนของต้นมะพร้าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น เช่น
  ราก    - ใช้ทำสีย้อมผ้า และทำของใช้เครื่องประดับบ้าน เช่น ตะกร้า กระเช้าดอกไม้ กรอบรูป ฯลฯ
  ลำต้น  ใช้ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ ไม้กระดาน ฯลฯ
  ทางมะพร้าว   - ใช้ทำรั้ว  ทำฟืน ฯลฯ
  ใบมะพร้าว     - ใช้มุงหลังคา ทำภาชนะใส่ของ  หมวก ของเด็กเล่น ฯลฯ
  ก้าน           - ใช้ทำไม้กวาด ก้านดอกไม้ประดิษฐ์ มู่ลี่ ตะกร้า ฯลฯ
  รกมะพร้าว     - ทำเป็นของใช้ เช่น รองเท้า กระเป๋า หมวก กล่อง ฯลฯ
  จั่นมะพร้าว    - ทำโครงเรือ นำมาประดิษฐ์ของใช้ต่างๆ เช่น กรอบรูป เชิงเทียน ฯลฯ
  ผลมะพร้าว    - ส่วนที่เป็นเส้นใย และขุย ใช้ทำเบาะ เก้าอี้ ที่นอน พรมเช็ดเท้า เชือก ผสมดินเพาะชำ ตอนกิ่งต้นไม้ ฯลฯ ส่วนที่เป็นเนื้อใช้บริโภค น้ำมะพร้าวใช้ดื่มแก้กระหาย ทำน้ำส้มสายชู ฯลฯ

      ส่วนของลูกมะพร้าวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้คือ กะลามะพร้าว  เมื่อถูกมนุษย์เอาเนื้อออกไปรับประทานหมดแล้วก็เป็นเศษวัสดุที่ไม่ค่อยมีราคาค่างวดสักเท่าไรคนสมัยก่อนมักนำไปใช้ทำเชื้อเพลิง หรืออย่างดีก็คิดเอาไปทำเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กระบวยตักน้ำ ทัพพี ถ้วย ชาม ฯลฯ ความสำคัญของกะลามะพร้าวในสมัยก่อนมีค่าไม่มากนัก จึงมีการเปรียบเปรยคนที่ใช้ชีวิตอย่างไร้คุณค่าเหมือนกะโหลกกะลา ทางภาคใต้ผู้ที่ชอบเถลไถลไม่ทำอะไรเลย จะถูกเรียกขานว่า “ไอ้พลกไอ้ต้อเป็นการบ่งบอกถึงความไร้ค่าเสมอด้วยกะลา